โฆษณา

วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2563

สัมภาษณ์พี่ Ed 7 วิ กับวิธีในการหาตัวเองและทำเงินได้จากสิ่งที่เราเก่ง

 https://www.youtube.com/watch?v=xXfpd1gIWis


สิ่งที่เราชอบจากการฟังสัมภาษณ์ของพี่ Ed 7 วิในคลิปนี้คือ เค้าบอกวิธีในการค้นหาสิ่งที่เราควรจะทำเป็นอันดับแรก มันไม่ใช่สิ่งที่เราชอบ แต่เป็นสิ่งที่เราเก่ง หรือมีพรสวรรค์ในเรื่องนั้นๆ เช่น มันอาจจะเป็นอะไรซักอย่างที่เราทำได้เร็วกว่าคนอื่นเค้า เราอาจจะไม่ชอบมันมากนัก แต่เราทำได้เร็วทำได้ไว มันก็เป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันกับคนอื่น จุดนี้เราเอามาใช้หาเงินเพื่อเอาไปต่อยอดทำในสิ่งที่รักในวันหลังมันจะดีกว่าการที่เรามาพยายามทำในสิ่งที่รัก แต่จริงๆ แล้วเราไม่ได้ถนัดกับมัน เราอาจจะต้องเสียเวลามากมายในการฝึกเพื่อให้เก่งเท่ากับคนที่เค้าเกิดมาแล้วมีพรสวรรค์ในเรื่องนั้นๆ แต่กว่าเราจะเก่งและพอจะสร้างเงินได้มันก็เสียเวลาไปมากแล้ว สู้เราเอาเวลาในช่วงแรกของการทำงานมาหาสิ่งที่เราเก่งหรือมีพรสวรรค์ก่อน พอหาเจอแล้วเราก็เอามันไปหาเงินให้ได้มากพอที่เราจะมีชีวิตที่ไม่ลำบาก แล้วค่อยเอาเวลาตอนนั้นไปทำสิ่งที่เรารักมันก็จะดีกว่า

วันเสาร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2555

ไม่ยอมแพ้แก่โชคชะตา

(copy มาจาก Facebook ของ พระไพศาล วิสาโล )


" ไม่ยอมแพ้แก่โชคชะตา" (Repost)

คุณจะรู้สึกอย่างไร หากทั้งชีวิตมีแต่เรื่องร้ายๆ หนักๆ ประดังประเดเข้ามา ตั้งแต่เกิดก็เกือบจมน้ำตาย โตขึ้นก็สูญเสียแม่ พ่อป่วยหนัก มีน้องๆ ต้องดูแลหลายคนทั้งๆ ที่ยังเรียนไม่จบ ครั้นแต่งงาน ก็มีลูกพิการ สุดท้ายสามีก็ทิ้ง แล้วยังมาเจอเนื้องอกที่มดลูก ผ่าตัดลำไส้เหลือแค่ครึ่งเดียว จากนั้นก็ถูกรถชน กระดูกคอหัก รอดตายแล้วก็ไปเจออุบัติเหตุรถยนต์อีก แขนหักสองท่อน และตับแตก อายุไม่ถึง ๕๐ แต่กระดูกผุราวคน ๘๐ แล้วยังไม่รู้ว่าจะเจออุบัติเหตุอีกกี่ครั้ง เจอแบบนี้แล้ว คุณยังคิดอยากอยู่อยากยิ้มให้กับชีวิตนี้อีกหรือ ?

แต่สำหรับ คุณเกษมสุข ภมรสถิตย์ ชีวิตนี้ไม่เคยเลวร้ายเกินทน เธอยังยิ้มให้กับชีวิตได้เสมอ ไม่รู้สึกท้อแท้สิ้นหวังหรือหวั่นหวาดอนาคต เพราะมั่นใจว่าพรุ่งนี้ย่อมดีกว่าวันนี้

พูดอย่างคนโบราณ ชีวิตของเธอเหมือนกับเกิดมาเพื่อรับกรรม ลืมตาดูโลกได้ไม่ถึง ๒ เดือนพี่เลี้ยงก็ทำหลุดมือตกน้ำ เกือบจะหลุดเข้าไปใต้โป๊ะท่าน้ำ แต่เดชะบุญมีคนคว้าไว้ได้ทัน ทั้งน้ำและน้ำมันเข้าปาก พออายุได้ ๘ ขวบก็จมน้ำอีก ผุดทะลึ่งขึ้นมาครั้งที่ ๓ พ่อถึงเห็นและเกี่ยวขึ้นมาได้ทัน จมน้ำปางตาย ๒ ครั้งทำให้ร่างกายอ่อนแอ เจอแดดร้อนๆ ไม่ได้ มีอันต้องเป็นลม ร้องไห้ประเดี๋ยวเดียวก็เป็นลมสลบ จนใครๆ หาว่าสำออย

เรียนมหาวิทยาลัยแค่ปี ๒ แม่ก็เสีย พ่อทำใจไม่ได้ ช็อคหัวใจวาย กลายเป็นคนป่วยนับแต่นั้น ไม่นานบ้านก็ถูกยึดเพราะเป็นหนี้ อายุแค่ ๑๙ ปีเธอกลายเป็นกำลังหลักคนเดียวของครอบครัวที่ต้องหาเงินมาเลี้ยงพ่อและน้องๆ ทั้ง ๕ คน ไม่ได้หดหู่ท้อใจในชะตากรรม เป็นความรู้สึกของเธอในตอนนั้น โดยหารู้ไม่ว่าเคราะห์กรรมยังจะตามมาอีกมาก

เธอแต่งงานก่อนวัยเบญจเพส เมื่อคลอดลูกก็พบว่าลูกพิการ เพราะหมอใช้คีมคีบหัวออกมาอย่างไม่ถูกต้อง สมองจึงเติบโตได้ไม่เต็มที่ หมอทำนายว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างมาก ๙ ปี แต่เธอก็เลี้ยงดูเอาใจใส่จนลูกอายุ ๒๐ กว่าแล้ว คลอดลูกมาได้ปีกว่า ก็พบว่าเป็นเนื้องอกที่มดลูก ปรากฏว่าหมอตัดส่วนที่ดีทิ้งไป จึงต้องเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง คราวนี้มดลูกที่เหลือถูกตัดทิ้งหมดรวมทั้งรังไข่ด้วย ทำให้ร่างกายขาดฮอร์โมน ครั้นกินฮอร์โมนทดแทน ก็แพ้ เลยเป็นโรคกระดูกผุนับแต่บัดนั้น เท่านั้นยังไม่พอ ระหว่างผ่าตัด โรคกระเพาะเกิดกำเริบ จนตัวบวมเขียว หมอต้องเปิดท้องตัดลำไส้จนเหลือเพียงครึ่งเดียว

อายุไม่ถึง ๒๖ เธอก็มีอวัยวะไม่ครบเหมือนคนปกติ แถมมีลูกพิการที่เสี่ยงต่อความตาย แม้เธอจะรักษาชีวิตของตนและของลูกได้ แต่แล้วก็ต้องสูญเสียเสียสามี ชีวิตครอบครัวที่มีแต่ปัญหาทำให้เธอกับเขาตัดสินใจแยกทางกัน

เจออย่างนี้แล้วเธอยังทำใจได้ ไม่คิดโทษใคร หรือน้อยใจในชีวิต

เคราะห์กรรมยังซ้ำเติมไม่จบ ราวกับจะทดสอบจิตใจของเธอ วันหนึ่งขณะที่รถติดไฟแดง ก็มีรถเมล์เบรกแตกวิ่งมาชนรถของเธอ แรงกระแทกทำให้กระดูกคอของเธอซึ่งผุอยู่แล้วหักทันที และไปทับเส้นประสาททำให้เป็นอัมพาต เดชะบุญที่สามารถรักษาให้หายได้หลังจากนอนแน่นิ่งในโรงพยาบาลเกือบ ๒ เดือน

หลังจากครั้งนั้นแล้ว ก็เจออุบัติเหตุอีก รถของเธอเลี้ยวโค้งแล้วไปชนกับเสาไฟฟ้า กระดูกที่แขนของเธอหักออกจากกัน ห้อยร่องแร่ง แถมยังถูกก้านเกียร์ทิ่มใต้ชายโครงขณะช่วยคนขับหักพวงมาลัยหลบคอสะพาน ผลก็คือตับแตก

เธอยังต้องเจออุบัติเหตุอีกหลายครั้ง แม้แต่วันที่ไปออกรายการ “เจาะใจ” ก็ยังมีรถยนต์มาชนท้าย กระเทือนที่คอและหลัง แต่เธอก็ยังบอกว่าไม่เป็นไร ทนได้ ต่อเมื่อถ่ายทำรายการเสร็จแล้ว จึงไปให้หมอตรวจและรักษาที่โรงพยาบาล

วันนี้เธออายุ ๕๒ และไม่รู้ว่าจะเจออะไรข้างหน้าอีก แต่เธอก็ยังมีขวัญและกำลังใจในการดำเนินชีวิต

คงมีไม่กี่คนในโลกนี้ที่เจอเคราะห์ซ้ำกรรมซัดไม่หยุดหย่อนอย่างคุณเกษมสุข ยกเว้นคนที่เจอภัยสงครามหรืออดอยากหิวโหยปางตายแล้ว จะมีสักกี่คนที่ลำบากลำเค็ญเท่าเธอ

แต่แปลกไหมที่เธอไม่รู้สึกเป็นทุกข์เป็นร้อนกับชีวิตที่เต็มไปด้วยเคราะห์กรรมเลย ถ้าชะตากรรมมีจริง เธอเป็นคนหนึ่งที่ย้ำเตือนว่าเราสามารถเอาชนะชะตากรรมได้ ไม่ได้ชนะที่ไหน หากชนะที่ใจนั่นเอง

ชีวิตของเธอบอกให้เรารู้ว่า คนเราจะทุกข์หรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่ว่ามีอะไรมากระทบกับเรา แต่อยู่ตรงที่เรารู้สึกอย่างไรกับสิ่งนั้น หรือทำอย่างไรกับมันต่างหาก แม้จะมีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นกับเรา แต่ถ้าเราทำใจรับได้ ความทุกข์ก็เกิดขึ้นไม่ได้ ในทางตรงกันข้าม แม้มีเงินทองไหลมาเทมา แต่ถ้าเราคิดว่ามันน้อยเกินไป ทำให้รวยไม่พอหรือไม่เท่าคนอื่น เมื่อนั้นใจเราก็เป็นทุกข์ทันที หลายครั้งที่ความเดือดร้อนของคุณเกษมสุขเกิดขึ้นจากฝีมือคนอื่นแท้ๆ เช่น หมอที่ใช้คีมคีบหัวลูกแรงเกินไป ตัดมดลูกผิดข้าง แม้แต่รถจอดนิ่งอยู่ ก็ยังมีรถคนอื่นมาชน ข้างหน้าบ้าง ข้างหลังบ้าง แต่เธอไม่เคยเสียเวลาไปโทษคนอื่น เล่นงานเขา หรือก่นด่าชะตากรรม หากคิดเพียงว่าจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างไร และรักษาใจให้เป็นปกติได้อย่างไร

ตอนที่นอนป่วยอยู่ในโรงพยาบาลเพราะกระดูกคอหัก หมอเอาเหล็กแหลมเจาะเข้าไปในกระโหลกทั้ง ๒ ข้างเพื่อป้องกันไม่ให้คอเขยื้อ นขยับ เธอเจ็บมาก แต่เห็นว่าถ้าตนใจเสีย หมอและน้องๆ ก็ใจเสียไปด้วย เธอเลือกที่จะทำใจให้ปกติ ไม่ตีโพยตีพาย เพราะ “ถ้าต้นตอไม่ตีโพยตีพายเสียก่อน คนรอบข้างก็อยู่ได้ และกำลังใจนั้นมันก็จะถูกส่งกลับมาที่เราอีกที”

ไปๆ มาๆ ปรากฏว่า คนป่วยกลับมีจิตใจสบายกว่าคนมาเยี่ยมเสียอีก จนกลายเป็นที่ปรับทุกข์ให้แก่ คนรอบข้าง แต่เธอไม่ใช่พระอิฐพระปูน ฟังเรื่องพวกนี้มากๆ ก็ทุกข์ได้ง่ายๆ ทางออกของเธอก็คือ “จับ (คนมาเยี่ยม) นั่งสมาธิเสียเลย จะได้ไม่มีเวลาพูดเรื่องอะไรที่มันร้อนใจ”

กลายเป็นว่าคนป่วยกลับเป็นที่พึ่งทางจิตใจให้แก่คนปกติ แทนที่จะตรงกันข้าม

สิ่งสำคัญที่ประคองใจไม่ให้ทุกข์ร้อนไปกับเหตุร้ายก็คือ สติ สติอ่อนเมื่อไหร่ ใจก็จะโวยวายตีโพยตีพาย โทษคนโน้นคนนี้ จนลืมจัดการกับตนเอง ทั้งๆ ที่เป็นสิ่งที่ต้องทำก่อนอื่นใด น้องๆ คุณเกษมสุขเล่าว่า ตอนเกิดอุบัติเหตุรถชนเสาไฟฟ้า คุณเกษมสุขโทรศัพท์บอกที่บ้านอย่างเรียบๆ ธรรมดาว่า “ไม่เป็นไร แต่คิดว่าตับแตก” สติเท่านั้นที่จะทำให้เรื่องร้ายกลายเป็นเบา อย่างน้อยก็ไม่ทำให้เลวร้ายลงไปอีก ทั้งยังช่วยให้เราแก้ไขสถานการณ์ด้วยปัญญาอย่างสอดคล้องกับความเป็นจริง

ใครที่คิดว่าตัวเองทุกข์หนักหนาสาหัสแล้ว ลองนึกถึงชีวิตของคุณเกษมสุข อาจจะได้คิดว่าตนนั้นยังโชคดีอยู่มากเมื่อเทียบกับเธอ แต่เท่านั้นยังไม่พอ น่าจะได้คิดต่อไปอีกด้วยว่า สุขทุกข์นั้นแท้จริงอยู่ที่ใจ ไม่ได้อยู่ที่ว่าอะไรเกิดขึ้นกับเรา ถึงจนก็สุขได้ ถึงป่วยก็ยิ้มได้ แม้จะพลัดพรากสูญเสียแค่ไหน ก็ยังมีสิทธิแช่มชื่นแจ่มใสได้ แต่ถ้าทำใจไม่เป็นเสียแล้ว รวยแค่ไหน มีอำนาจมากเพียงใด ทรวดทรงงดงามเพียงใด ก็ยังทุกข์อยู่นั่นเอง

จะเจออะไรมาก็แล้วแต่ ข้อสำคัญประการสุดท้ายก็คือ อย่ายอมแพ้ต่อชะตากรรม อย่าปล่อยใจไปกับ ความลำเค็ญ ความล้มเหลว และความเศร้าโศกท้อแท้ ในยามร้ายไม่มีอะไรดีกว่าการปลุกใจให้อดทน เข้มแข็ง สดชื่น และเปี่ยมด้วยความหวังว่าพรุ่งนี้ย่อมดีกว่าวันนี้

พระไพศาล วิสาโล

วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Fwd: อีกหน่อยเราก็ตายจากกัน.... ข้อคิดดีๆ จาก น้าเน็ก เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาละกะวงศ์ ณ อยุธยา

อีกหน่อยเราก็ตายจากกัน.... ข้อคิดดีๆจาก น้าเน็ก เกตุเสพย์สวัสดิ์ 
 1. คนเราอายุเฉลี่ย 60 ปี 1 ปี เท่ากับ 365 วัน แสดงว่าแต่ละคนมีเวลาบนพื้นโลก 21,900 วัน
คิดปลีกย่อยไปกว่านั้นก็ 525,600 นาที ลองนับเป็นสัปดาห์ อืม......... ไม่เลว 3,120 สัปดาห์
อุแม่เจ้า......... แสดงว่า เรามีโอกาสเที่ยวในคืนวันเสาร์สามพันกว่าครั้งเท่านั้นเอง
คิดแบบนี้แล้วไม่กล้าดูนาฬิกา แทบเบือนหน้าหนีจากปฏิทิน เพราะมันไม่ต่างอะไรกับการนับถอยหลังเพื่อรอวันลาโลก...
เปล่าเลยผมไม่ได้กลัวตาย และขอโทษที่หากเรื่องอาจไม่ค่อยขำ แต่ตลอดเวลาที่ใช้เวลาอยู่บนโลกนี้มันน้อยมากหากคำนวนในเชิงตัวเลข
*ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่ยังไม่ได้อ่าน
*เพลงอีกหลายเพลงยังไม่ได้ฟัง
*หนังอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้ดู
ความรู้สึกในใจอีกมากมายที่ยังไม่เคยบอก
พื้นที่อีกหลายล้านตารางกิโลเมตรที่ยังไม่เคยไป โอ๊ย..... กลุ้ม สองหมื่นกว่าวันที่เราได้รับมามัน
น้อยเกินไปจริง ๆ และที่น่ากลุ้มไปกว่า นั้นคือ ใช่ ว่าทุกคนจะอยู่ถึง 60 ปี แน่นอน 1 ปี ยังเท่ากับ 365 วัน
นั่นแสดงว่าบางคนไม่ได้มีเวลาบนพื้นโลก 21,900 วันหรอกนะ อาจไม่ถึง 3,120 สัปดาห์ซะด้วยซ้ำ!

อุแม่เจ้าเทค 2
คืนวันเสาร์ที่จะได้ไปเที่ยวเหลือไม่ถึง สามพันวันแล้วเหรอเนี่ย!!!!
คิดแบบนี้ต้องรีบยกนาฬิกาขึ้นมาดู กางปฏิทินออกกว้าง ๆ
เพราะมันคือเวลาที่เราเหลือ.... บนโลกนี้
นี่ชั้นกำลังทำบ้าบออะไรอยู่.....ไม่เลยน้องสาว นี่ไม่ใช่ปรัชญางี่เง่าอะไรทั้งสิ้น หากเป็นความจริงที่
เราไม่ค่อยได้มองมัน เอาล่ะ งั้นสมมติว่าทุกคนอายุ 17 ปี แปลว่าใช้ชีวิตมาแล้ว 6,205 วัน
และผ่านคืน วันเสาร์มาร้อยกว่าครั้ง ส่วนหน่วยนาทีนั้น ......
คำนวณเองบ้างซิว้อยย.....
เอาเวลาที่ใช้ไปนั้น หักลบกับเวลา ( ที่คาดว่าจะ) เหลืออยู่ ผลลัพธ์ที่ได้ เราจะทำยังไงกับมันดี ....

แต่น่าแปลก หลายคนยังยอมทำงานน่าเบื่อนั่งเอาหัวตากแอร์ไปวัน ๆ
ยอมให้คนที่ไม่ใช่พ่อใช่แม่จิกหัวใช้
เพื่ออะไรบางอย่างที่เราเรียกว่า ' เงินเดือน '

บางคนทนเรียนอะไรก็ไม่รู้อยู่ 4 ปี ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าชอบหรือเปล่า รู้แต่ว่าแม่ชอบ
ไม่ก็เห็นแค่ว่าเพื่อนเรียน
เพียงแค่ตอบตัวเองไม่ได้ว่ากูจะเป็นอะไรดี

บางคนแอบรักเขา ซุ่มเลิฟอยู่อย่างนั้น
ปล่อยให้ความรู้สึกที่ดีลอยไปหาคนอื่น
แต่กลับปล่อยให้ใจตัวเองเหลืออยู่แต่ความ
รู้สึกต่ำต้อยได้ทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน

บางคนกินทิฐิเป็นอาหาร เก๊กใส่กันไปวัน ๆ
ต่างฝ่ายต่างรอให้อีกฝ่ายง้อ มรึงแน่ กูแน่ งอนการกุศล
ประชดทำลายสถิติ เชิดหยิ่งชิงชนะเลิศ....บ้า และอีกหลายคนนิยมกิจกรรม ' ฆ่าเวลา ' ชีวิตมันว่างจัด
ขนาดต้องฆ่าเวลากันเลย บอกตรง ๆ เห็นแล้วอยากตบกบาล
เอ็งกำลังทำลายทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดที่มนุษย์ทุกคนพึงจะมี
อีกหน่อยเราก็ตายจากัน ...... แล้วนะ ลองคิดแบบนี้บ้าง
ใช่แล้ว ..... เราจะเกิดความเสียดาย
เพราะเหลืออีกหมื่นแสนล้านที่เรายังไม่ได้ทำ
ตายได้ไง หากฝันไม่สำเร็จ
ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ยอมตาย แต่ให้รีบทำทุกอย่าง ก่อนที่จะตาย ... ซึ่งจะเป็นวันไหนก็ไม่รู้
และในเมื่อเราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ...
มาเตรียมการรอรับวาระสุดท้ายของเราดีกว่า
เอาแบบตายวันตายพรุ่งก็จะได้นอนตายตาหลับ
ใช้ชีวิตโดยคิดซะว่า ....พรุ่งนี้ฉันจะตายแล้ว
ทำงานในสิ่งที่เรารัก เสมือนว่าเราจะไม่ได้ทำมันอีก ตามความฝันของเราไปสุดโต่ง ...ต้องรีบแล้ว เดี๋ยวตายนะ...เตือนแล้วไง รักให้หมดใจ บอกเขาไปทั้งหมดที่ความรู้สึกมี
ส่วนจะรักหรือไม่รักกู ไม่สนว้อย ... เพราะพรุ่งนี้ชั้น(อาจจะ ) ตายแล้ว
ใช้เวลา ( ที่อาจจะ) สุดท้ายที่มีต่อกันไว้
กอดกันเหมือนว่านี่เป็นกอดครั้งสุดท้ายของเรา นุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพราะอย่างน้อย ๆ เราจะได้มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มตอนให้สัมภาษณ์ยมบาล

....... คนข้างบ้านเดินแป้นแล้นมาบอกข่าวดี ลูกสาววัย 23 กำลังจะแต่งงาน
ในมือมีซองสีชมพูพร้อมการ์ด
ลูกสาวอยู่ต่างจังหวัดกับคู่หมั้น
แม่เลยต้องมาแจกการ์ดเอง
เมื่อกี๊ว่าที่เจ้าสาวเพิ่งโทรมาปรึกษาแม่เรื่องชุดแต่งงาน.........
หลังจากนั้น 3 ชั่วโมง เธอตาย ......
แต่กว่าคนเป็นแม่จะรู้ข่าวร้าย ก็ปาไป 5 วัน
ซองในมือผม กลายเป็นเงินช่วยงานศพ ช่อดอกไม้ กลายเป็นพวงหรีด
และทั้งหมดกลายเป็นแรงบันดาลใจ ที่อยากจะบอก
ว่าอีกหน่อยเราก็ตายจากกัน .... แล้วนะ
อ้าว.... รู้งี้ยังจะมาอ้อยสร้อย อะไรกันอีก
รีบ แยกย้ายไปใช้เวลาที่เราเหลืออยู่ไปทำทุกอย่างที่เรายังไม่ได้ ทำ
เดี๋ยวตายซะก่อน ..... เสียดายแย่

โดย น้าเน๊ก ...... เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาละกะวงศ์ ณ อยุธยา

 
ข้อความในทวิตเตอร์ที่มีคนเข้าไปปรึกษา
 
-น้าหนวด!! แม่อยากให้เป็นเหมือนลูกคนอื่น ทำไงดี/บอกท่านด้วยความเคารพว่า ถ้าหนูอยากให้แม่เหมือนแม่คนอื่นบ้างล่ะ?

-มีแม่มาตรฐานสูงทำไงดีน้า พยามเท่าไรก็ไม่พอซะที/ถามท่านว่าหนูก็เป็นผลผลิตของท่านมิไช่หรือ ถ้าไม่ถูกใจก็เป็นความผิดท่านด้วย

-การปฏิเสธว่าเราไม่ได้ชอบเค้า ทำไมมันยากขนาดนี๊ กลัวทำร้ายจิตไจอีกฝ่ายมากเลยค๊ะ~!/กลัวมากกว่าทำร้ายจิตใจตัวเองเลยรึ?

-น้าๆโดนคนที่ชอบลบพินทำไงดีน้า (ขอที่ไม่ใช่ทำใจนะ)/โถ...ความสัมพันแบบคุยกันทีละบรรทัดมันก็อย่างงี้แหละน้องเอ๊ยยย!

-คนถือเป็นสัตว์ประหลาดหรอครับน้า?/โคตรประหลาด ทำแต่เรื่องบ้าบอ ยำ่ยีจนโลกชิปหาย 140 อักษรสาธยายไม่หมด!

-น้าถ้าชอบใครน้าจะบอกเค้าเลยป่าว/บอกเลยครับ เค้าควรจะได้ภูมิใจที่มีใครชื่นชอบในสิ่งที่เค้าเป็น

-น้าสัมพาดไงให้ได้งานอะค่ะ
/"บางครั้งข้อดีของการไม่ถูกเลือก คืออิสระในการนำพาตัวเองไปพบกับสิ่งที่ใช่กว่า"

-น้าว่าถ้าเราอยู่กับคนที่เค้ารักเรา เราจะไม่เสียใจใช่ไหมคะ?/"ไม่มีความมั่นคงแท้จริงในสิ่งที่ขึ้นอยู่กับคนอื่น"

-น้าเน็กคะ. หนูร้องไห้อ่ะ พูดอะไรก็ได้หน่อยสิคะ/"นำ้ตาเป็นสสารเดียวที่ยืนยันว่า~ความรู้สึก~นั้นมีรูปธรรม"

-น้าอยากลืมอดีตอันเลวร้ายแต่ยังทำไม่ได้ทำไงดี/"หน้าที่สำคัญของอดีตคือสอนให้เรารู้ว่าเราควรจะทำอย่างไรกับปัจจุบัน"


 
+++++ "น้าเน็ก" คำคมๆ มากมายจากผู้ชายหน้าหนวด +++++

- ที่ผ่านมาทั้งชีวิตผมก็แค่ทำในสิ่งที่ผมรัก แต่ทุกๆคนทำให้มันกลายเป็นสิ่งมีค่า...ขอบคุณทุกกำลังใจครับ^^9:56 PM - 27 Jan 12

- "อย่างไรก็ตามความรักก็เป็นสิ่งมีค่าต่อมนุษย์ทุกผู้นาม ไม่ว่าจะครอบครองมันในแบบสุขสมหวัง หรือแม้กระทั้งในรูปแบบของความโศกเศร้าผิดหวัง"7:32 PM - 26 Jan 12

- "ไม่มีใครอยากอยู่อย่างโดดเดี่ยว ในขณะที่ก็ไม่ได้อยากสุงสิงกับคนแปลกหน้า และจะสบายใจมากถ้าได้อยู่ท่ามกลางผู้คน...บนความเป็นส่วนตัว" 11:01 AM - 19 Jan 12

- "อย่าใช้คนอื่นยืนยันการมีตัวตนของเรา ว่างก็โทรหาคนอื่น กินอะไรต้องถามคนอื่น สวมใส่อะไรถามคนอื่น ไปเที่ยวไหนถามคนอื่น ดีใจ-เสียใจเพราะคนอื่น" 10:42 AM - 19 Jan 12

- "คุณค่าของสิ่งที่เรียกว่าความสำเร็จอยู่ที่หนทางไปสู่มัน มิใช่การครอบครองเป็นเจ้าของมัน" 1:50 AM - 19 Jan 12

- "หากหัวใจยังเต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของคนหนุ่มสาว อายุที่มากก็ไม่ได้แปลว่าแก่" 1:45 AM - 19 Jan 12

- "เอาเข้าจริงแล้วสมบัติชิ้นเดียวของทุกคนคืออดีต เพราะปัจจุบันกำลังจากไปทุกวินาที และอนาคตเป็นสิ่งที่เราไม่มีทางรู้เลยว่ามันมีเหลือเท่าไหร่" 1:41 AM - 19 Jan 12

- "อย่านึกว่าทุกยิ้มที่เห็นนั้นหมายถึงความสุข เพราะมันอาจกำลังทำหน้าที่ปกปิดความเศร้าที่อยู่ในใจ"4:34 PM - 13 Jan 12

- ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะค้นหา "ความเป็นตัวของตัวเอง" และที่ยากกว่าก็คือการดูแลปกป้องมัน แต่เชื่อเถอะมันคุ้มค่ามากพอที่จะทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อมัน12:53 AM - 11 Jan 12

- การได้พบ "ใครบางคน" ไม่ใช่แค่จุดเริ่มต้นวัน-เวลาที่แสนมีความสุข หากแต่ยังเป็นการย้ำเตือนให้รู้ว่าชีวิตที่ผ่านมาของเรานั้นขาดหายอะไรไป...1:21 AM - 10 Jan 12

- ในโลกมีคนอยู่สองประเภท ประเภทแรกเห็นแสงแดดแล้วกลัวดำ กับประเภทหลังที่เห็นแสงแดดแล้วสุขใจว่าธรรมชาติยังคงรูปรอยของมัน4:38 PM - 28 Dec 11

- ภาษาวิบัติในโซเชี่ยลฯไม่ใช่เรื่องต้องตำหนิ,กล่าวโทษใคร ทำได้เพียงไว้อาลัยที่ความสวยงามของมันโดนฆ่าตายโดยฆาตกรที่ใช้ข้ออ้างว่า~"ศัพท์วัยรุ่น"8:37 PM - 5 Dec 11

- ถ้าพ่อไม่ได้ใช้เฟสบุ๊ค,บีบี ก็อย่ามาขึ้นสเตตัสบอกรักพ่อเลยครับ บอกท่านด้วยตัวเองคนเดียว น่าประทับใจกว่าเที่ยวประกาศในโชเชี่ยลเน็ตเวิร์ค3:56 AM - 5 Dec 11

- จะมัวแต่มองไปยังคนอื่นเพื่อที่จะอยากเป็นอย่างเขาทำไมเล่า ในเมื่อเรามีสิ่งที่ควรเป็นนั่นคือตัวเราซึ่งเป็นแบบฉบับเฉพาะบุคคลที่น่าภาคภูมิใจยิ่ง4:26 PM - 29 Nov 11

- "แม้กล่องของขวัญจะสวยขนาดไหน แต่สุดท้ายก็ถูกฉีกเพราะคุณค่าอยู่ที่ของข้างใน...คนเราก็เช่นกัน ความสำคัญนั้นอยู่ภายในจิตใจ...หาใช่หน้าตา"
4:12 PM - 29 Nov 11

- ถ้าปรารถนาจะมีชีวิตที่มีความสุข เงินเป็นแค่เครื่องมือหนึ่งหาใช่จุดหมาย...อย่าใช้ทั้งชีวิตเพื่อก้มหน้าก้มตาหาแต่มัน9:51 AM - 29 Nov 11

- หากมองสิ่งรอบข้างด้วยความเข้าใจ และปรับตัวได้กับทุกสถานการณ์ ตลอดชีวิตเราจะไม่มีวันเจอสิ่งที่เรียกว่า "ปัญหา"1:14 AM - 20 Nov 11

- อย่าเสียใจกับการจากไปของอะไรบางสิ่ง เพราะเอาเข้าจริงมันไม่เคยมีอยู่ตั้งแต่ไหนแต่ไร11:23 AM - 23 Oct 11

- สำหรับบางคน...ในบางครั้งเราก็ดูแสนดี แต่บางทีก็ดูเลวซะเต็มประดา แล้วควรทำอย่างไร?....คำตอบคือ "ก็แค่เป็นอย่างที่เราเป็น"1:12 AM - 24 Sep 11

- ถ้าเปรียบครอบครัวเหมือนการล่องแพ"ขาดพ่อเหมือนถ่อหัก ขาดแม่เหมือนแพแตก"ไม่มีพ่อก็ไม่รู้ครอบครัวจะไปทิศทางไหน ไม่มีแม่ก็มิอาจเรียกว่าครอบครัว7:55 PM - 8 Aug 11

- ไม่ว่าจะทำอะไรเอาให้สุดๆ เพราะมันเป็นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่เวลาได้บอกใครว่า "ฉันเก่งในสิ่งที่ฉันเป็น" แม้หน้าที่นั้นจะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม9:54 AM - 4 Aug 11

- พ่อเคยสอนว่า...บางครั้ง"โอกาส"ก็เหมือนน้ำที่สาดมาจากทุกทิศทาง อยู่ที่ว่าเราเตรียมถังน้ำที่ชื่อว่า"การเตรียมพร้อม"เอาไว้กักตุนมากพอหรือเปล่า 1:54 PM - 3 Aug 11

- คนรวยคือคนที่มีทุกอย่างเหมือนเราแค่ราคาแพงกว่า แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าจะมีความสุขมากกว่า ถ้าอยากแสวงหาความสุข...ความรวยไม่ใช่คำตอบ!9:44 AM - 19 Jul 11

- สิ่งเดียวที่จะตัดสินว่าชีวิตที่เรามีนั้นดีหรือเลวก็คือ "ทัศนคติ"...ซึ่งเป็นสิ่งที่เราควบคุมได้!9:40 AM - 19 Jul 11

- เราจะรู้สึกอุ่นสบายต่อเมื่อได้ห่มผ้าผืนหนาในอากาศหนาวเหน็บ...นั่นแสดงให้เห็นว่าประโยชน์ของความทุกข์นั้นมีไว้เพื่อให้รู้ว่าความสุขมีค่าแค่ไหน1:47 AM - 10 Jul 11

- สำหรับผม ชีวิตที่สนุกคือชีวิตที่ยุ่ง...อย่างมีระเบียบ1:44 AM - 10 Jul 11

- ยามเมื่อยู่ใต้แสงเทียนเราจะรู้สึกโรแมนติคและเป็นสุข ถึงแม้ว่าแสงสว่างนั้นจะเกิดจากการยอมเผาไหม้ตัวเองเพื่อคนรอบข้าง..การเสียสละนั้นดีงามเสมอ9:54 AM - 23 Jun 11

- โดยพื้นฐานแล้วเราทุกคนมีชีวิตที่ดีในแบบของเราอยู่แล้ว ประเด็นอยู่ที่ว่าตัวเรานั้นเห็นดีเห็นงามกับชีวิตของเรารึเปล่า นั่นล่ะที่เรียกว่า "สุข"1:25 AM - 23 Jun 11

- ทุกครั้งที่ประสบปัญหา เราใช้เกือบทั้งหมดของสมองไปกับการตื่นตระหนกและวิตกกังวล โดยแทบไม่เหลือเนื้อที่สำหรับคิดแก้ปัญหาเลย ฉะนั้น จงมีสติเสมอ!1:20 AM - 7 Jul 11

วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2554